ประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดใหญ่ของ  โรคโควิด-ไนน์ทีน ท่ามกลางรายงานผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

โดยฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศแรกที่สั่งปิดตลาดหุ้นอย่างไม่มีกำหนดในวันนี้(17มี.ค.63)  เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้ค้า นอกจากนี้จะมีการปิดสนามบินทั้งหมดบนเกาะลูซอนตั้งต่วันศุกร์นี้ด้วย หลังจากที่เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ได้สั่งให้ประชาชนส่วนใหญ่บนเกาะดังกล่าวรวมทั้งในกรุงมะนิลา อยู่แต่ภายในบ้านไปจนถึงเดือน    เดือนหน้า ทำให้วันนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเข้าแถวรอซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น

ทั้งนี้ฟิลิปปินส์มีรายงานผู้ติดเชื้อโรคโควิด-ไนน์ทีนแล้ว 187 คน และเสียชีวิต 12 คน รัฐบาลประกาศให้เงินทุนแก่โรงพยาบาลต่างๆ กว่า 526 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   เพื่อต่อสู้กับโรค และบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ขณะที่ผู้คนในสิงคโปร์ต่างวิตกพากันเร่งกักตุนอาหาร หลังมาเลเซียปิดพรมแดนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-ไนน์ทีน เนื่องจากสิงคโปร์นั้นต้องพึ่งพาสินค้าอุปโภคบริโภคจากมาเลเซีย อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ยืนยันว่า อาหารและสินค้าจากมาเลเซียจะยังเข้ามาตามปกติ แม้มีการปิดพรมแดน โดยนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซินของมาเลเซีย ได้ให้การรับรองเรื่องนี้แล้ว

ทั้งนี้มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อโรคโควิด-ไนน์ทีน 553 คน มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์มีจำนวน 243 คน

ด้านเกาหลีใต้จะเพิ่มกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองให้เข้มงวดขึ้นสำหรับผู้เดินทางมาจากทุกประเทศทั่วโลก เพื่อป้องกันผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มาจากต่างประเทศ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มชลอลง โดยพบผู้ป่วยใหม่ 84 คนในวันนี้ ซึ่งต่ำกว่า 100 คนเป็นวันที่สามติดต่อกัน มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 8,320 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 2 คน เป็น 81 คน ผู้ติดเชื้อ 44 คนมาจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้ได้ประกาศจะเลื่อนการเปิดภาคเรียนปีการศีกษาใหม่ออกไปอีกสองสัปดาห์เป็นวันที่ 6 เมษายน

ขณะที่ฮ่องกงประกาศจะกักตัวผู้เดินทางเข้าฮ่องกงทุกคนเป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสนี้ในความพยายามที่จะยับยั้งการแพร่ระบาด พร้อมแนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ซึ่งฮ่องกงนั้นมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-ไนน์ทีน แล้ว 4 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 157 คน

เช่นเดียวกับสหรัฐที่มีการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไป ล่าสุด 6 เขตในแถบพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโก ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งนครซานฟรานซิสโก ได้ประกาศคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ยกเว้นการทำกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 7 เมษายน ส่วนนครลอสแองเจลิส สั่งปิดบาร์ ร้านอาหาร โรงยิม และธุรกิจต่างๆ รวมถึงให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน ขณะเดียวกันนายไมค์ เดอไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอได้ประกาศปิดการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารีที่กำหนดมีขึ้นในวันนี้ เนื่องจากโรคโควิด-ไนน์ทีน กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ส่วนเวเนซุเอลาประกาศขยายมาตรการกักกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ และฮังการีจะเข้มงวดมาตรการจำกัดคนเข้าประเทศ หลังยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 39 คนเมื่อวานนี้เป็น 50 คนในวันนี้ นอกจากนี้ท่าอากาศยานนานาชาติบูดาเปสต์จะอนุญาตให้เฉพาะชาวฮังการีเข้าประเทศ ส่วนชาวต่างชาติจะไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันนี้(17มี.ค.63)

ที่มา สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์