
พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวปราศรัยในนามรัฐบาลไยต่อที่ประชุมระดับอนุภูมิภาคว่าด้วยการบรรลุเป้าประสงค์ที่ 8.7 เรื่อง การยุติแรงงานบังคับ การใช้ทาสในยุคสมัยใหม่ การค้ามนุษย์ และแรงงานเด็ก ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งมีผู้แทนกว่า 10 ประเทศ รวมทั้งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเข้าร่วม จัดโดยสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การแรงงานระหว่างประเทศ โดยกล่าวต่อที่ประชุมสรุปว่า
"เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นความท้าทายที่จะดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จในปี ค.ศ. 2030 และที่ผ่านมาพบว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า ดังนั้น ต้องร่วมกันทุกฝ่ายรวมทั้งหุ้นส่วนทางสังคมอื่น ๆ ด้วย เพื่อที่จะทำให้โลกใบนี้ปราศจากแรงงานบังคับ การใช้ทาส การค้ามนุษย์ และแรงงานเด็ก รวมทั้งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยเฉพาะ เด็ก.. เป็นทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุด พวกเขาคืออนาคต เป็นความหวังที่มีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ การดำรงอยู่ของการใช้แรงงานเด็กเป็นการกีดกันไม่ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนา ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่แท้จริง ต่อการบรรลุประสงค์ของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากและมีผลสัมฤทธิ์ ในการแก้ไขปัญหาการนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว โดยประเทศไทยได้ประกาศให้เป็น "วาระแห่งชาติ พร้อมได้นำเสนอ 3 กลยุทธ์ ต่อที่ประชุม ซึ่งประเทศไทยได้ใช้ในการดำเนินงาน และที่สำคัญคือมีความเหมาะสมที่จะสามารถประยุกต์ใช้ในภูมิภาคนี้ได้ประกอบด้วย
กลยุทธ์แรก คือ มาตรการรายกลุ่ม (sector by sector) เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของทรัพยากร ดังนั้น ต้องเริ่มต้นจากภาคส่วนที่มีการกระจุกตัวของปัญหามากที่สุด ซึ่งจะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่สอง คือ หุ้นส่วนและการรับผิดชอบร่วมกัน (partnership and shared responsibility) โดยภาคีหุ้นส่วนต้องมีการแบ่งปันและใช้ประโยชน์ร่วมกันขององค์ความรู้ ข้อมูล และทรัพยากร ซึ่งประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV ได้มีข้อตกลงที่รับผิดชอบร่วมกันในการขจัดการโยกย้ายถิ่นฐานในรูปแบบที่ไม่ปกติ (irregular migration) ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาแรงงานบังคับ การค้ามนุษย์ และแรงงานเด็ก
กลยุทธ์ที่สาม คือ การส่งเสริมมาตรฐาน (standard promotion) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยจะต้องมีมาตรฐานที่ทุกคนสามารถยึดถือปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน และประเทศไทยได้มีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้มาตรฐานแรงงานไทยและแนวทางการปฏิบัติที่ดีด้านแรงงานภายในสถานประกอบกิจการที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลตามกรอบขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
ที่มา : กระทรวงแรงงาน