
การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นับเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยมีช่องทางการค้า การลงทุน และเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจอย่างหลากหลาย ทำให้ที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลพร้อมเดินหน้าหาแนวทางส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีลู่ทางการค้าการลงทุนในอาเซียน รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับไทยเอง ทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าผ่านการค้าชายแดนด้วย ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ กสอ. อยู่ระหว่างการผลักดันผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพไปทดสอบตลาดการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มประเทศเป้าหมายในอาเซียนเช่นกัน ซึ่งนับเป็นกลุ่มประเทศที่ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง และมีนโยบายเปิดกว้างรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยการค้าขายและส่งออกในกลุ่มCLMV จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเมียนมาและกัมพูชา
นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ รองอธิบดี กสอ. กล่าวว่า การเติบโตดังกล่าวนับเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัวเข้าไปทดสอบการลงทุน ขณะที่สินค้าไทยมีเอกลักษณ์และศักยภาพที่ดีต่อสายตาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ประกอบกับไทยมีทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของทั้งอาเซียนและกลุ่ม CLMV จะทำให้ได้เปรียบกว่าประเทศคู่แข่งได้ สำหรับภาคธุรกิจที่เข้าไปลงทุนและส่งออกตามแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันไป
ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดการลงทุนที่เหมาะสม เช่น การลงทุนในกัมพูชาส่วนใหญ่จะเน้นด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ส่วนลาวเป็นการผลิตในหมวดพลังงาน ขณะที่เมียนมาเป็นการลงทุนด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างและเครื่องมือการเกษตร และเวียดนามจะลงทุนและส่งออกในผลิตภัณฑ์อาหารและชิ้นส่วนยานยนต์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาแม้มีผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนเข้าไปในกลุ่มประเทศดังกล่าวบ้างแล้วจนประสบความสำเร็จ แต่ตลาดอาเซียนและกลุ่มประเทศ CLMV ยังนับเป็นช่องทางที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่กำลังเริ่มต้นขยายการลงทุนเพื่อสร้างความเติบโต
Credit : thainews.prd.go.th