บริษัทผลิตถุงมือยาง Top Glove ของมาเลเซีย
ประกาศหยุดการผลิตของ 28 โรงงาน ในกลัง (Klang) และสลังงอร์
(Selangor) หลังพบว่ามีลูกจ้างจำนวนกว่า 2,000 คน
ผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นบวก
นาย Ismail Sabri Yaakob รัฐมนตรีอาวุโส
(ด้านความมั่นคง) กล่าวเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ว่า
การตัดสินใจประกาศหยุดทำงานชั่วคราว
เนื่องจากต้องตรวจและกักตัวคนงานในโรงงานผลิตถุงมือยางแห่งนี้
ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตถุงมือยางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Noor Hisham Abdullah อธิบดีกรมอนามัย มาเลเซีย
กล่าวเพิ่มเติมว่า จากคนงานโรงงาน Top Glove ที่มีความเสี่ยง
จำนวน 5,767 คน ผลการตรวจพบว่าคนงานจำนวน 2,524 คน ที่ยืนยันได้แล้วว่าติดโควิด-19
โดยแบ่งเป็น คนงานในโรงงาน จำนวน 2,453 คน ผู้ติดต่อใกล้ชิด จำนวน 71 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กอายุ
2 ขวบ ด้วย
ปัจจุบัน หอพักของคนงานบริษัท Top Glove
ที่ตั้งในกลังและบริเวณรอบ ๆ
อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการสัญจรของมาเลเซีย แบบ Enhanced Movement Control
Order (EMCO) ซึ่งจะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าหรือออกในระยะเวลา
14 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขดำเนินการตรวจคัดกรองอย่างเคร่งครัด
โดยจะมีการจัดส่งอาหารและยาให้ประชาชนที่อาศัยยู่ในพื้นที่ที่มีการล็อคดาวน์
ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศให้ 9 รัฐ และ 3
ดินแดนสหพันธ์ ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองปุตราจายา และเกาะลาบวน
อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการสัญจร แบบ Conditional MCO (CMCO) ซึ่งจะมีการล็อคดาวน์พื้นที่บางส่วน
และอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่างเขต (inter-district travel) เฉพาะกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงาน
รวมถึงงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน
บริษัท Top Glove เป็นบริษัทผลิตถุงมือยางขนาดใหญ่
สามารถผลิตถุงมือยางได้เฉลี่ยจำนวน 220 ล้านชิ้น ต่อวัน
โดยในปีนี้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า
กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่อันดับสองของมาเลเซีย
เนื่องจากความต้องการในการใช้ถุงมือยางที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19
ที่มา The Strait Times
|